วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

โครงการสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วประเทศไทย


สามเณร... เหล่ากอของสมณะ
 มีคำกล่าวว่า...เด็ก มิได้ไร้เดียงสาต่อการบรรลุธรรม
ในอดีต จากประวัติสามเณรอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมีมากถึง 14 รูป บางรูปบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ตอนอายุ 7 ขวบพร้อมคุณวิเศษ ยกตัวอย่างเช่น
1.จุนทะสามเณร สามารถแสดงปาฏิหาริย์แทนพระพุทธเจ้าได้ เป็นผู้ริเริ่มในการสังคายนาในพระพุทธศาสนา 
2.สามเณรนิโครธ ผู้จุดให้พระเจ้าอโศกมหาราชหันมานับถือและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
3.สามเณรทัพพะ เป็นสามเณรรูปแรกที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์และเป็นภิกษุรูปแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบวชและยกให้ท่านเป็นภิกษุทั้งที่อายุไม่ครบ 20 ปี
ในปัจจุบัน มีเด็กมาบวชในโครงการบรรพชาสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วไทย เพียงไม่กี่วันพบว่าสามเณรหลายรูปมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี มีความสามารถในการกล่าวสุนทรพจน์และตัดสินใจบวชเรียนบาลีต่ออีกหลายรูป
วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2562 คือวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กเหล่านี้และของพ่อแม่ผู้ปกครองที่รอคอยวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ วันที่ได้เห็นบุตรหลานของตนได้ห่มผ้าเหลือง ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัยตั้งแต่วัยเยาว์ วันอันงดงามในประวัติชีวิตของครอบครัวและวงศ์ตระกูล

วันนี้ จากอากาศที่ร้อนแล้งอบอ้าวในฤดูร้อน เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมานานหลายเดือน และร้อนที่สุดในเดือนเมษายนนี้ แต่ทว่า หลังจากพิธีบรรพชาสามเณรเสร็จสิ้นลงในเวลาบ่ายสองโมงเศษ ๆ ฉับพลัน ท้องฟ้าก็ร้องครืน ๆ และตามมาด้วยละอองฝนที่ตกลงมาพรำ ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ดับความร้อน นำความชุ่มเย็นมาสู่แผ่นดิน และความเย็นทั้งกายทั้งใจ ความปลื้มปีติใจมายังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้มีส่วนสนับสนุนงานบรรพชาสามเณรกว่าหมื่นรูป 
แต่กว่าจะถึงวันนี้ ทุกคนต่างต้องผจญอุปสรรคต่าง ๆ มานับไม่ถ้วน บางคนมาถึงวัดแล้วก็กลับไป บางคนอยู่ได้แค่การอบรม บางคนบวชได้ไม่กี่วัน  แต่ในที่สุด ที่เหลือบวชจนจบโครงการ เป็นวันชิตังเม วันแห่งชัยชนะ เป็นวันที่นับได้ว่าสามเณรเหล่านี้มีบุญบารมีที่สั่งสมมามาก   เพราะการได้บวชว่ายากแล้ว การอยู่ในเพศสมณะ ยังมีหลักปฏิบัติอยู่ 3 ประการคือ ฝึกตน คือตื่นแต่เช้า เอาชนะความง่วงเหงาหาวนอน ทนหิว คือลดอาหารมื้อเย็นไปหนึ่งมื้อ บำเพ็ญตบะคือการทำให้กิเลส ความรุ่มร้อนต่าง ๆ หมดไปหรือเบาบางลง เพราะการมาอยู่เป็นหมู่คณะที่ต่างมาจากครอบครัวที่มีการอบรมไม่เหมือนกัน การกระทบกระทั่งย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดาเหมือนลิ้นกับฟัน  
ทั้งนี้ บุคคลสำคัญกลุ่มหนึ่งที่คอยประคบประหงมสามเณรกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ดูแลความเป็นอยู่ทุกเรื่องตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ต้องตื่นก่อนนอนทีหลัง ดูแลยามเจ็บป่วยและคอยปลอบประโลมยามร้องไห้ด้วยโรคคิดถึงบ้าน ทำให้สามเณรอยู่ได้วันต่อวัน อยู่อย่างมีความสุข สนุกสนานตามประสาเด็ก แต่ก็อยู่ในกรอบของระเบียบวินัย นั่นก็คือ พระพี่เลี้ยง 

ดั่งโอวาทบางส่วนจากใครคนหนึ่งว่า
....โลกจะขาดพี่เลี้ยงไม่ได้เลย ถ้าขาดพี่เลี้ยงแล้วจะดำเนินชีวิตถูกต้องได้อย่างไร..พี่เลี้ยงต้องมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ เหนื่อยก็ไม่ได้ ท้อก็ไม่ได้ บ่นก็ไม่ได้ ให้ปลื้มได้อย่างเดียว ปลื้มสองปลื้มก็ไม่ได้ ต้องอย่างน้อยแสนปลื้ม...
และหลวงพ่อทัตตะชีโวได้ให้โอวาทไว้ว่า
 “...รู้ว่างานนี้เหนื่อยแน่ การเอาเด็กมารวมกันเยอะ ๆ "เหนื่อย" แต่ต้องให้คุ้มกับความเหนื่อยว่าเมื่อเด็กกลับไปแล้ว ได้อะไรกลับไป อย่างน้อยต้องจัดเก็บพับผ้าเป็น ทำงานเป็นทีมเป็น สะอาด ตรงต่อเวลาและมีระเบียบ เป็นต้น
บุคคลสำคัญอีกชุดหนึ่งก็คือผู้ใหญ่ใจดีที่คอยส่งเสบียงอาหารเช้า-เพล/ปานะพิเศษมาเสริม รวมทั้งมอบของขวัญจับสลากแก่สามเณรที่ตั้งใจทำความดี ตั้งใจฝึกอบรม และนั่งสมาธิดี
ภาพพิธีตักบาตรฉลองสามเณร ในวันที่ 22 เมษายน วันคุ้มครองโลก ยิ่งนำความปลื้มปีติมาสู่ชาวพุทธทุกคนว่า ศาสนาพุทธจะดำรงคงอยู่อย่างยาวนานเพราะมีศาสนทายาทสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนสนับสนุนทุก ๆ ด้าน ตลอดจนพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงทุกรูปที่ช่วยดูแลเอาใจใส่สามเณรจนจบโครงการ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ
ภาพดี ๆ 072
สามเณรอรหันต์




วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562

ปีใหม่ สร้างบุญใหญ่



วันปีใหม่ ตามวิถีของชาวพุทธ
ภาพดี ๆ  ทุกภาพ เกิดขึ้นได้เพราะเรา
       ภาพสาธุชนทุกเพศทุกวัยที่ค่อย ๆ ทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่เช้าจรดเย็นจวบจนใกล้เที่ยงคืนในวันสิ้นปี ณ มหารัตนวิหารคด รอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ เพื่อมาสวดมนต์ บท “ธัมมจักกัปวัตนสูตร” ถวายเป็นพุทธบูชาครบ หนึ่งพันล้านกับสิบเอ็ดจบ ครั้งแรกของโลก และมาทบทวนบุญตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี ปิดงบบุญเก่าเปิดงบบุญใหม่ด้วยใจใส ๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยมีกิจกรรมตั้งแต่เช้าจรดเย็น
https://www.dmc.tv/pages/ธรรมยาตรา/ธรรมยาตรา-ปีที่-7.html
เช้าวันแรกของปีใหม่
 ถึงแม้จะฉลองชัย ชิตังเม เมื่อตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา  และกลับไปพักผ่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมง สาธุชนนับหมื่นคนก็หอบลูกจูงหลาน หิ้วสิ่งของกันมาถุงล็กถุงน้อย จนถึงขนาดใหญ่ตามกำลังทรัพย์กำลังศรัทธา มาเอาบุญกันอีกด้วยการตักบาตรแด่พระภิกษุสามเณรกว่า 2,000 รูป ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ ไว้เป็นเสบียงข้ามชาติกัน โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยย่อท้อ มีแต่คำว่า “ปลื้ม” ตลอดเส้นทางในการสร้างบารมี
เสร็จจากพิธีตักบาตร คลื่นสาธุชนเหมือนสายน้ำที่ไหลต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสายมุ่งตรงไปสู่สภาธรรมกายสากลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ปีติเบิกบานอยู่ในบุญอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อรองรับบุญใหญ่ในภาคสายต่อไป  

 ภาคสาย พิธีถวายข้าวพระพุทธเจ้า งานบุญใหญ่อาทิตย์แรกของเดือนที่ปฏิบัติมานานกว่าหลายสิบปี สาธุชนผู้มีบุญทั้งในและต่างประเทศทำพิธีพร้อมกันในเวลาธรรมกายโดยยึดเวลาประเทศไทยเป็นหลัก 
            ช่วงเย็น พิธีอัญเชิญแผ่นทอง “สุวรรณสิริรัศมี” ปิดยอดโดมพระมหาธรรมกายเจดีย์ ทำให้เจดีย์มีรัศมีสว่างไสวครบทั้งองค์  และเวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ 
เช้าวันที่สอง
 ต้อนรับขบวนพระธรรมยาตรา 1,135 รูป ในโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมารปีที่ 7 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5” ตลอดทั้งเดือนมกราคม 

ทุกวัน และตลอดทั้งปีคือการสร้างบุญสร้างบารมีที่เกิดจากแรงศรัทธาที่ได้รับการปลูกฝังความเป็นชาวพุทธมานานกว่า 2,000 ปี เป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของพุทธศาสนิกชน 9 ประการ ดั่งเช่น การไหว้พระสวดมนต์ประจำวัน การตักบาตรตามกำลังของตน การทำบุญและประกอบพิธีตามฤดูกาล เป็นต้น 
และภาพที่เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนาในอนาคตอันใกล้นี้คือภาพของ “เยาวชนไทยรวมใจทำความดี จังหวัดปทุมธานี” ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2562 ที่นำร่องให้เด็ก ๆ มารวมกันทำความดีต่าง ๆ อาทิเช่น กิจกรรมวัฒนธรรมเชิงพุทธ นิทรรศการ “กฎแห่งกรรม” (โทษภัยของยาเสพติด ) และผู้นำการเปลี่ยนแปลง “รักษ์สิ่งแวดล้อม” เวทีการแสดง “เก่งและดี”
https://twitter.com/hashtag/วัดพระธรรมกาย
ภาพทั้งหลายเหล่านี้ เป็นภาพแห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่จะดำรงคงอยู่อย่างมั่นคง ด้วยพลังแห่งความสามัคคีของชาวพุทธ  แม้จะมีกระแสข่าวโจมตีพระ จะยึดวัด อายัดอาคาร ก็ไม่หวั่นไหว เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนโดยเสมอภาค ไม่แบ่งแยกชนชั้น วรรณะและความเชื่อใด ๆ  ซึ่งกระบวนการยุติธรรมยังดำเนินไปไม่ถึงที่สุด ถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์  และเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เอาใจใส่ทำนุบำรุงและช่วยกิจการพระศาสนา โดยเอาวิกฤติเป็นโอกาส เช่นทำบุญแผ่นทอง “สุวรรณสิริรัศมี” ปิดยอดโดมพระมหาธรรมกายเจดีย์ จนสำเร็จภายในเวลาเพียงไม่กี่วันในวันสิ้นปีพอดี 
ภาพดี ๆ เหล่านี้ ได้ถูกบันทึกลงไปในกล้องพิเศษที่ไม่สามารถลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่กลับเป็นภาพที่ยิ่งนึกก็ยิ่ง “ปลื้ม” ตราบนิจนิรันดร์


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ




วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มุทิตาคุณครูไม่เล็ก

พบครูดี

 มีคนกล่าวไว้ว่า  มี 3 เรื่องที่น่าเสียใจในชีวิต หนึ่งในสามนั้นก็คือพบครูดี แล้วไม่เรียน
แต่เราโชคดี ที่...

พบครูดี แล้วเรียน

ยุคก่อน กว่าจะได้พบครูดี ต้องลำบากตรากตรำในการเดินทางไปหา ผ่านป่าเขาลำเนาไพรที่มีภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ด้วยระยะทางอันแสนยาวไกล ครั้นไปถึงแล้ว ก็ไม่สามารถพบได้ในทันที มีการทดสอบกำลังใจอย่างแสนสาหัส  อย่างเช่นเล่าปี่  กว่าจะได้กุนซือหรือครูดีอย่างขงเบ้ง ต้องผ่านกลวิธีลองน้ำใจต่าง ๆ นานาจากขงเบ้ง โดยครั้งแรก ต้องผิดหวังกลับเมือง หลังจากนั้นอีกสี่ห้าวันก็ฝ่าหิมะ ฝ่าลมหนาวอย่างทรมานไปหาที่บ้านอีก ก็ไม่ได้เจอ จนครั้งที่สาม ขงเบ้งอยู่ในบ้าน แสร้งนอนหลับเป็นเวลานาน ในที่สุด เมื่อเห็นความอดทน ไม่ลดละความพยายามและความตั้งใจจริงของเล่าปี่ที่จะกอบกู้บ้านเมือง จึงตกลงรับคำเชิญของเล่าปี่ออกไปช่วยทำราชการ เป็นที่ปรึกษาของแม่ทัพ แนะนำยุทธวิธีในการรบ(กับศัตรูภายนอก)
            ยุคนี้ การได้พบครูดี ต่างจากยุคก่อนอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องลำบากในการไปหา ที่สำคัญคือการได้เรียนและนำคำสั่งสอนจากครูดี ที่สอนให้เปลี่ยนจากรบกับศัตรูภายนอก ให้มารบกับศัตรูภายในคือกิเลสที่อยู่ในใจของเราทุกคน โดยเฉพาะในเรื่องความดีสากล 5 ประการคือ
1. มีความรับผิดชอบต่อความสะอาด
2. มีความรับผิดชอบต่อความมีระเบียบ
3. มีความรับผิดชอบต่อความสุภาพ
4. มีความรับผิดชอบต่อการตรงต่อเวลา
5. มีความรับผิดชอบต่อการมีสมาธิ

ความดีสากลทั้ง 5 นี้ เป็นข้อปฏิบัติทางกาย วาจา ใจเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้โดยง่าย โดยไม่จำกัดเพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา และลัทธิความเชื่อ จากสะอาดภายนอกจนถึงสะอาดเข้าไปถึงภายใน เมื่อใจใส ก็สามารถมองเห็นกิเลสที่นอนก้นอยู่ภายในใจ  เกิดดวงปัญญาในการหาวิธีในการขจัดกิเลสให้ออกไปจากใจ  สามารถเห็นประโยชน์สุขของตนและผู้อื่นได้เป็นปรกติ ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จในการสร้างงาน ต่อสังคมสืบไป

ทั้งนี้  “ครูดี” ได้เป็นต้นบุญต้นแบบในการฝึกฝนอบรมตนเองอย่างยิ่งยวด มีการถ่ายทอดออกมาอย่างมีเหตุมีผล ชัดเจน ถือหลักหลังอิงต้นโพธิ์ เพื่อปลูกฝังสัมมาทิฐิ ปลูกฝังคุณธรรมความดีต่าง ๆ ผ่านทางพระธรรมเทศนา งานเขียนหนังสือ ที่ได้ฟังหรืออ่านหนังสือที่ท่านเขียนแล้วมีกำลังใจในการฝึกฝนอบรมตนเองให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป 


หลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก) ภาพจากหนังสือความดีสากล

           
ท่านคือ หลวงพ่อทัตตชีโว “ครูดี” ผู้มีปกติวิสัยแห่งความเป็นครูผู้เปี่ยมล้นคุณธรรม มีจิตกอปรด้วยความเป็นกัลยาณมิตร อุทิศตัวทุ่มเทให้งานอบรมเทศน์สอนและงานเขียนหนังสือธรรมะที่มีมากกว่าร้อยเล่ม ซึ่งเป็นแนวทางให้ศิษยานุศิษย์ได้นำมาใช้ในการฝึกฝนอบรมตนเอง จึงขอกราบมุทิตาสักการะในวาระครบรอบ
78 ปี ในวันที่ 21 ธันวาคม 2561 นี้
ตัวอย่างภาพประกอบคุณครูไม่เล็ก(แถวหน้าตำแหน่งนั่งที่สองจากขวา)นำปฏิบัติธรรมในการทำพิธีบุญกับคณะสงฆ์ พิธีสมโภชและประดิษฐาน "แก้วรัตนกตัญญู"
            

             เมื่อเราโชคดี ได้พบครูดี ได้เรียนพระธรรมเทศนาต่าง ๆ ที่ท่านค้นคว้ามาจากพระไตรปิฎกอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย  แล้วน้อมนำคำสั่งสอนมาประพฤติปฏิบัติตาม นับเป็นการบูชาธรรมอย่างสูงสุด และเป็นการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยืนยงต่อไปตราบนานเท่านาน


ภาพการ์ดคำสอนของคุณครูไม่เล็ก

ภาพการ์ดเชิญชวนสวดมนต์บทธัมมจักรในวันที่ 21 ธันวาคม 2561
ภาพการ์ดเชิญชวนสวดธัมมจักรบูชาธรรมคุณครูไม่เล็ก

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

โลกอยู่ในมือเรา



ให้โอกาส...ให้ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

มีคำกล่าวว่า
 “การให้โอกาสแก่ผู้อื่น ก็เท่ากับการให้โอกาสแก่ตัวเอง”

คำกล่าวนี้ทำให้นึกถึง “บูมเมอแรง ขว้างไปยิ่งแรงยิ่งกลับมาเร็ว” หรือกฎข้อที่ 3 ของนิวตัน แรงกริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา เช่น เมื่อเราออกแรงผลักกำแพง  กำแพงจะออกแรงเท่ากันกลับสู่มือเรา หรือแรงที่จรวดผลักเท่ากับแรงที่ผลักจรวด เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการทำคุณงามความดีที่มีหลายรูปแบบ หนึ่งในความดีนั้นก็คือการให้โอกาสแก่ผู้อื่น เพราะ “โอกาส” สามารถหยิบยื่นให้ง่าย ๆ ด้วยใจที่เปิดกว้าง ใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตาและปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลก ยิ่งให้โอกาสแก่คนอื่นมากเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มพูนคุณธรรมความดีแก่ตนเองมากขึ้น ยิ่งให้ ใจก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ๆ กำลังใจก็มีมากขึ้น ในการต่อสู้กับกิเลสภายใน แก้ไขปรับปรุงตนในการสร้างบุญสร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การ์ดเพื่อการให้โอกาส
การ์ดเพื่อการให้โอกาส

ให้โอกาส
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงรู้ว่าถ้าพระเทวทัตบวชเข้ามาแล้วจะสร้างบาปกรรมอันใหญ่หลวงแก่พระศาสนาและพระพุทธองค์ คือ ทำร้ายพระพุทธเจ้าและทำสังฆเภทคือให้สงฆ์แตกกัน แต่ทรงให้โอกาสแก่พระเทวทัตเพราะทรงเล็งเห็นว่า ถ้าพระเทวทัตครองเรือนเป็นคฤหัสถ์ก็จะก่อกรรมทำชั่วอย่างไม่จบสิ้น เมื่อตายไปก็จะไปบังเกิดในอบายภูมิเสวยทุกขเวทนาเป็นเวลาหลายกัปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าพระเทวทัตได้บรรพชาในพระพุทธศาสนา ก็จักมีอันสิ้นสุดได้ จักทำกรรมชั่วเพียงให้ตกนรกอยู่แค่ 1 กัปเท่านั้น ทรงเห็นอย่างนี้ จึงให้โอกาสแก่พระเทวทัตบรรพชาด้วยอำนาจพระมหากรุณาของพระพุทธองค์ 
การคิดการณ์ไกลของพระพุทธองค์คือการให้โอกาสแก่ทุกคน ให้ในสิ่งที่เกิดประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน โดยไม่คิดพยาบาทปองร้ายตอบต่อผู้ประทุษร้าย ซึ่งเรื่องราวเริ่มต้นจากชาติแรกที่พ่อค้าเร่คนที่หนึ่ง(เทวทัต) ที่คอยตามติดจองเวรชิงชังผูกอาฆาตพยาบาทพ่อค้าพระโพธิสัตว์(อดีตชาติของพระสมณโคดม) มาหลายภพหลายชาติจนกระทั่งชาติปัจจุบันเป็นเจ้าชายเทวทัตที่กระทำเลวร้ายต่าง ๆ นานาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ทำอะไรท่านไม่ได้มากแค่ทำให้ท่านห้อพระโลหิตเท่านั้น ที่สุด ก่ออนันตริยกรรม แล้วกลับสำนึกได้ในภายหลังและถูกธรณีสูบ  ดั่งพุทธพจน์ที่ว่า 
บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร
 เหล่าอมิตรย่อมย่ำยีบุคคลผู้นั้นไม่ได้ 
ดุจต้นไทรมีราก
และย่อมงอกงาม 
พายุไม่อาจพัดพานให้ล้มได้ ฉะนั้น
ทั้งนี้ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า สาเหตุที่พระเทวทัตกระทำความชั่วก็เพราะจิตของพระเทวทัตได้ถูกครอบงำย่ำยีด้วยอสัทธรรม (ธรรมฝ่ายชั่ว) 8 ประการ คือ
 1 .ลาภ 
 2. เสื่อมลาภ 
 3 .ยศ
 4. เสื่อมยศ
 5. สักการะ
 6. เสื่อมสักการะ 
 7. ความปรารถนาอันต่ำทราม
 8. ความเป็นมิตรชั่ว แต่มีเพียง 3 อย่างที่ถูกครอบงำด้วยอสัทธรรมคือ
           8.ความปรารถนาอันต่ำทราม
8.ความเป็นมิตรชั่ว
            8.3 พอบรรลุคุณวิเศษก็หยุดอยู่เพียงแค่นั้น
            หลังจากนั้น พระพุทธเจ้าก็ได้สอนให้เหล่าภิกษุผู้ที่ถูกครอบงำย่ำยีด้วยอสัทธรรม  ให้เป็นฝ่ายครอบงำย่ำยีอสัทธรรมเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างแบบพระเทวทัต  
เมื่อสำนึกได้ 
ที่สุด ในวาระสุดท้ายของพระเทวทัต เมื่อจิตไม่ได้ถูกครอบงำย่ำยีด้วยอสัทธรรมแล้ว กำลังจะเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พอลุกจากเตียงแล้วนั่งวางเท้าทั้งสองบนพื้นดิน เท้าทั้งสองนั้นก็จมแผ่นดินลง โดยลำดับเพียงข้อเท้า เพียงเข่า เพียงเอว เพียงนม จนถึงคอ ในเวลาที่กระดูกคางจดถึงพื้นดิน ได้กล่าวคาถานี้ว่า 
“ข้าพระองค์ขอถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นบุคคลเลิศ เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ เป็นสารถี ฝึกนรชน มีพระจักษุรอบคอบ มีพระลักษณะ (แต่ละอย่าง) เกิดด้วยบุญตั้งร้อย ว่าเป็นที่พึ่งด้วย กระดูกเหล่านี้พร้อมด้วยลมหายใจ.” 
วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้ เราทำอะไรอยู่ 
พระพุทธองค์ ทรงให้โอกาสแก่ผู้ประทุษร้าย  ให้ทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อย่นระยะเวลาในการที่ต้องเสวยวิบากกรรมให้ลดน้อยเบาบางลง นับเป็นความเมตตามหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ที่ยอมตนเพื่อบ่มบารมีโดยมีเป้าหมายคือพระสัมมาสัมโพธิญาณ และประโยชน์ท่านคือการบรรลุธรรมอันสูงสุดต่อไปของหมู่ชน   เมื่อเราได้โอกาส ได้พบพระพุทธศาสนา มีมหาปูชนียาจารย์ที่ดำเนินรอยตามพระบรมศาสดาเป็นต้นบุญต้นแบบแล้ว ถามตัวเองว่า วันนี้ เราทำอะไรอยู่ ทุกคนมีคำตอบคือเป้าหมายในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงธรรมและสร้างบารมีไปกับหมู่คณะ ตราบสุดธรรม

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ
ภาพการ์ดการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จากyoutube.com
บูมเมอแรง
ขุ.ชา.(ไทย) มมก. [ออนไลน์] 63/441/43 
กฎข้อที่ 3 ของนิวตัน
พระเทวทัต
พระเทวทัตถูกธรณีสูบ
ภาพพระเทวทัตขอขมา

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความดี คนดีทำง่าย


กตญฺญุโน หิ สปฺปุริสา กตเวทิโน
คนดีย่อมเป็นผู้กตัญญูและกตเวที 
การ์ดภาพคำสอนคุณครูไม่ใหญ่


ในอดีตที่ผ่านมา ผู้นำในการสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางธรรม และเป็นต้นแบบในการสร้างความดี จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกมาจนถึงปัจจุบัน พบว่าท่านเหล่านั้นล้วนเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที ซึ่งมีอยู่ 5 ประการได้แก่ 
1. กตัญญูต่อบุคคล คือ ใครก็ตามที่เคยมีพระคุณต่อเรา ไม่ว่าจะมากน้อยเพียงไร จะต้องกตัญญูรู้คุณท่าน ติดตามระลึกถึงเสมอด้วยความซาบซึ้งพยายามหาโอกาสตอบแทนคุณท่านให้ได้ โดยเฉพาะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ บิดามารดา ครู อุปัชฌาย์อาจารย์ พระมหากษัตริย์หรือผู้ปกครองที่ทรงทศพิธราชธรรม จะต้องตามระลึกนึกถึงพระคุณของท่านให้จงหนัก ให้ปฏิบัติตัวให้เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และเป็นพุทธมามกะสมชื่อ
2.กตัญญูต่อสัตว์ คือ สัตว์ที่มีคุณต่อเรา เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ใช้งาน จะต้องใช้ด้วยความกรุณาปรานี ไม่เฆี่ยนตีมันจนเหลือเกิน อย่าใช้งานหนักจนเป็นการทรมาร
3. กตัญญูต่อสิ่งของ คือ ของสิ่งใดก็ตามที่มีคุณต่อเรา เช่นหนังสือ ธรรมะ หนังสือเรียน สถานศึกษา วัด ต้นไม้ ป่าไม้ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาเลี้ยงชีพ ฯลฯ
4. กตัญญูต่อบุญ คือ รู้ว่าคนเราเกิดมามีอายุยืนยาว ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณดี สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความสุขความเจริญ มีความก้าวหน้า มีทรัพย์สมบัติมาก ก็เนื่องมาจากผลของบุญ จะไปสวรรค์หรือกระทั่งไปพระนิพพานได้ก็ด้วยบุญ กล่าวได้ว่า ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยบุญ ทั้งบุญเก่าที่ได้สะสมมาดีแล้ว และบุญใหม่ที่เพียรสร้างขึ้นประกอบกัน จึงมีความรู้คุณของบุญ มีความอ่อนน้อมในตัว ไม่ดูถูกบุญ ตามระลึกถึงบุญเก่าให้จิตใจชุ่มชื่น และไม่ประมาทในการสร้างบุญใหม่ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
5. กตัญญูต่อตนเอง คือ รู้ว่าร่างกายของเรานี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราจะได้อาศัยใช้ในการทำความดี ใช้ในการสร้างบุญกุศลนานาประการเพื่อความสุข ความเจริญก้าวหน้า แก่ตนเองต่อไป จึงทะนุถนอมดูแลร่างกายรักษาสุขภาพให้ดี ไม่ทำลายด้วยการดื่มเหล้า เสพสิ่งเสพติด 
คนดีมีคุณธรรม มีความกตัญญูครบถ้วนทั้ง 5 ประการนั้น  เป็นผู้ที่เพียบพร้อมด้วยดวงปัญญา ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นชาวบ้านธรรมดา นักปราชญ์ราชบัณฑิต หรือนักบวชที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่นพระสารีบุตร ผู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา เป็นผู้เลิศทางปัญญา ทั้งนี้ก็เพราะการคิดจะตอบแทนคุณของผู้มีพระคุณทั้งหลาย จะต้องผ่านกระบวนการความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดที่ดี ๆ ที่ออกมาจากใจที่บริสุทธิ์ ใจที่ละเอียดอ่อนในการคิดค้นหาวิธีการต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์นั้น ๆ เมื่อได้ทบทวนไตร่ตรองดีแล้ว จึงลงมือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอด้วยใจที่มุ่งมั่น  สิ่งที่ตามมาก็คือความช่างสังเกต ความรู้และความทรงจำที่ดีขึ้นไปตามลำดับ ๆ ครั้นนานวันเข้าก็สั่งสมเป็นปัญญาบารมี
อย่างเช่นกตัญญูต่อครูคนแรกของท่านคือทุกคืนก่อนนอน พระสารีบุตรท่านจะหันศีรษะและนมัสการไปทางทิศที่พระอัสสชิอยู่  ด้วยว่ารำลึกถึงพระคุณของพระอัสสชิที่เป็นอาจารย์คนแรกที่ทำให้ท่านมาพบทางสว่าง  
อีกทั้งกตัญญูต่อข้าวทัพพีหนึ่งของราธพราหมณ์ที่ถวายแก่ท่านขณะเข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์  ครั้นมาขอบวช กลับไม่มีภิกษุใดรับอุปสมบทให้เพราะเห็นว่าชราภาพมากแล้ว พระบรมศาสดาจึงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า มีใครระลึกถึงอุปการะของราธพราหมณ์บ้าง พระสารีบุตรกราบทูลว่าท่านระลึกได้ จึงรับบรรพชาอุปสมบทราธพราหมณ์

และที่สำคัญกตัญญูต่อมารดา ท่านไปโปรดนางสารีพราหมณีผู้เป็นมารดาซึ่งไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ซึ่งพระนางเห็นว่าพระสารีบุตรยังเป็นใหญ่กว่าท้าวจาตุมหาราช ท้าวสักกเทวราช และท้าวมหาพรหม ที่นางเคารพ แล้วพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นครูของพระลูกชายจะต้องมีอิทธิศักดานุภาพยิ่งใหญ่กว่า  ในที่สุด เมื่อฟังธรรมจากพระสารีบุตรแล้ว นางสารีพราหมณีก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
ดังนั้น ผู้นำในการสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางธรรม ล้วนเป็นคนดีมีคุณธรรม มีดวงปัญญาข้ามชาติ ที่เกิดจากการสั่งสมความกตัญญูกตเวทีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ครั้นทำซ้ำ ๆ ในปัจจุบันชาติ ก็ยิ่งเป็นมงคลชีวิตแก่ตนเอง เป็นบารมียิ่ง ๆ ขึ้นไป 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ
มงคลชีวิตฉบับทางก้าวหน้า มงคลที่ 25
   




วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

134 ปี วันคล้ายวันเกิดพระมงคลเทพมุนี พระผู้ปราบมาร

วันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

การมาเกิดของหลวงปู่
แผ่นดินที่หลวงปู่เลือกลงมาเกิดมีลักษณะพิเศษที่ชาวบ้านเรียกว่าแผ่นดินใบบัว พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ มีน้ำล้อมรอบ มีเรื่องเล่าจากน้าองุ่น สุขเจริญ หลานหลวงปู่  ในเรื่องความอัศจรรย์ของแผ่นดินนี้ คือไฟไม่เคยไหม้ ท่านเล่าว่า สมัยก่อนนั้น  พื้นที่ตรงริม ๆ แถวนี้ ชาวบ้านจะผูกกองฟางบ้านละกองสองกอง  บางปีไฟไหม้กองฟางนั้นไม่ใช่น้อย ๆ 20-30 กอง  ไฟก็ลุกลามไปเรื่อย ๆ ลมก็พัดจะไปถึงบ้านคน พอจะถึงบ้านคนลมก็หยุด แล้วไฟก็จะมอด เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ไหม้บ้านใครก็เหมือนกัน มีบ้านหนึ่งเจ้าของบ้านตายหมด มีหลานเขาอยู่คนเดียว ลักษณะบ้านเป็นบ้านมุมจาก ฝาก็เป็นจากและก็ผุ หลานชายมาอยู่ก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์มา กรุ ๆ แปะ ๆ เอาไว้ อยู่มาวันหนึ่ง มีพวกเด็ก ๆ มาที่บ้านนี้  เล่นจุดไฟกัน ไฟไหม้บ้าน ไหม้กระดาษหมดเลย แต่ไม่ไหม้จาก ไม่ไหม้อะไรเลย
อีกเรื่องหนึ่งคือ เมื่อก่อนชาวบ้านใช้เตาฟืนเตาถ่าน ไฟไหม้เตา ๆ ก็ตกลงมาใต้ถุนเป็นลูกเตา แล้วก็ดับ  ไม่ไปทางไหนเลย
หลวงปู่ บอกว่า น้ำไม่ท่วมเมื่อไหร่ ไฟจะไหม้
 ภาพแผ่นดินแดนเกิดของพระมงคลเทพมุนี(หลวงปู่สด จันทสโร) ลักษณะคล้ายรูปใบบัว(โลตัสแลนด์)
ภาพแผ่นดินแดนเกิดหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ(สด จนฺทสโร) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

ยิ้มแห่งชัยชนะ


คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูง
ผู้ให้กำเนิด วัดพระธรรมกาย
              เนื่องในวันที่คุณยายฯ ท่านละสังขาร 18 ปีที่ผ่านมา ขอกราบแทบเท้าคุณยายฯ ผู้เป็นที่รักและเคารพ ผู้เป็นอาจารย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง คณะสงฆ์และลูกศิษย์ทั่วโลก ต่างพร้อมใจกันแสดงความกตัญญูบูชาพระคุณท่านทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา นั่นก็เพราะ
คุณยายฯ เป็นหนึ่งในกองทัพธรรม
          หลวงปู่วัดปากน้ำได้รำพึงขึ้นมาในท่ามกลางนักรบกองทัพธรรมที่ร่วมทำวิชชาปราบมารด้วยกันว่า       “ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง” 
เหตุการณ์คราวนี้ นับเป็นมหาปีติยิ่ง
คำว่า “หนึ่งไม่มีสอง” นี้ หลวงปู่วัดปากน้ำท่านพูดครั้งเดียวในชีวิตของท่านเท่านั้น และไม่พูดกับใครอีกเลย เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญยิ่ง ที่หลวงปู่มอบให้แก่ผู้มีคุณธรรมความดีพร้อมอย่างคุณยายฯ
            หลังจากหลวงปู่วัดปากน้ำมรณภาพแล้ว คุณยายฯ ยังคงปักหลักอยู่ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดปากน้ำ เพื่อทำตามคำสั่งและมโนปณิธานของหลวงปู่ที่ให้เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก เมื่อรอคอยจนพบผู้สืบทอดและรวบรวมทีมได้จำนวนหนึ่ง คุณยายจึงดำริที่จะสร้างวัดขึ้น โดยไปขอซื้อที่ดินจากเศรษฐีผู้ใจบุญคือคุณหญิงประหยัด แพทยพงศาวิสุทธาธิบดี แต่ท่านกลับยกให้หมดทั้งแปลงคือ 196 ไร่ 9 ตารางา ณ ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 



            คุณยายฯ ในวัยย่างเข้า 60 ปี และหมู่คณะที่เป็นเด็กหนุ่มกำลังศึกษาและเพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัย เพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ลงมือสร้างวัด ในวันมาฆบูชา 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513   จากกองทุนเริ่มต้นเพียง 3,200 บาท กับทุ่งนาฟ้าโล่ง พื้นดินแยกแตกเป็นระแหง แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลและเป็นยอดนักบริหารของคุณยายฯ จึงมีผู้มีจิตศรัทธามาช่วยกันสร้างวัดจนสำเร็จลุล่วงภายในเวลาไม่นานนัก ทั้งนี้เป็นเพราะจิตใจที่เป็นนักสู้ของคุณยาย ดังที่ท่านกล่าวว่า
            ....เกิดเป็นคนมันต้องสู้ สู้ด้วยการทำความดี อยู่ที่ไหนก็ตายเหมือนกัน สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ เราต้องสู้ ไม่สบายเมื่อไร แล้วถึงนอน เรายังแข็งแรงอยู่ ต้องสู้ มีอะไรก็ทำไป อย่าขี้เกียจ
คุณยาย โดยปกติแล้วท่านไม่เคยสั่งให้ใครทำอะไรแต่เพียงวาจา แต่จะสอนด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และลงมือทำร่วมกันไปด้วยทุกครั้ง อย่างเช่น การล้างห้องน้ำ  ใช้สก็อตไบรท์อันหนึ่งกับแฟ้บนิดหน่อยล้วงคอห่านอย่างละเอียดด้วยมือเปล่าโดยไม่ใช้ถุงมือ ท่านสอนว่า ทำให้ดีที่สุดในชาตินี้ ชาติต่อไปจะได้มีความสบาย ไม่ต้องกลับไปทำใหม่อีก อานิสงส์นี้จะติดตัวเราไปในภพชาติเบื้องหน้า
 วัดพระธรรมกาย จึงขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะคุณยายฯ ได้ดำเนินรอยตามกิจวัตรของพระสารีบุตร และเป็นต้นบุญต้นแบบให้แก่ลูกศิษย์ได้ปฏิบติตามท่าน คือสะอาดและระเบียบ จนมีพระเถระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ปกครองท่านหนึ่งเดินทางมาดูวัดในเขตปกครองของท่าน ท่านไม่ดูอะไร นอกจากครัวกับห้องน้ำ พอไปดูถึงกับเอ่ยขึ้นว่า
“อือม์ ที่นี่ดี ต่อไปจะเจริญ”
วัดพระธรรมกายในวันนี้ เจริญตามที่พระเถระผู้ใหญ่ท่านทำนายไว้ แต่ทั้งนี้ ที่เกิดขึ้นได้ก็เพราะสะอาดและระเบียบที่คุณยายฯ ได้ปลูกฝังไว้จากรุ่นสู่รุ่น  ทุกอย่างสำเร็จเพราะสองมือยาย
           แม้คุณยายฯ ได้ละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แต่การจากไปของท่าน จากไปอย่างผู้มีชัยชนะ ดังที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยบอกว่า

“ยิ้มของคุณยาย เป็นยิ้มที่จากไปของผู้ชนะ”
ชัยชนะของคุณยาย เป็นชัยชนะที่สะอาดบริสุทธิ์และงดงามยิ่งนัก เป็นชัยชนะที่ไม่กลับมาพ่ายแพ้อีก เพราะเป็นชัยชนะที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ และดีงามล้วน ๆ (จากหนังสือ “อยู่กับยาย”)


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพ


-เว็บDMC.TV รวมภาพคุณยายอาจารย์จันทร์

โครงการสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วประเทศไทย

สามเณร... เหล่ากอของสมณะ   มีคำกล่าวว่า...เด็ก มิได้ไร้เดียงสาต่อการบรรลุธรรม ในอดีต จากประวัติสามเณรอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมีมากถึง 14 ร...